ภาค 9 แถลงข่าวการจับกุมคดีคนร้ายใช้อาวุธยิง นายพงษ์ธนา/สท.แทน พรหมคง(บาดเจ็บ)และนายกาญจน์ ก้านจันทร์(เสียชีวิต)

ภาค 9 แถลงข่าวการจับกุมคดีคนร้ายใช้อาวุธยิง นายพงษ์ธนา/สท.แทน พรหมคง(บาดเจ็บ)และนายกาญจน์ ก้านจันทร์(เสียชีวิต)
Spread the love

แถลงข่าวการจับกุมคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายพงษ์ธนา/สท.แทน พรหมคง(บาดเจ็บ)และนายกาญจน์ ก้านจันทร์(เสียชีวิต)
โดย บก.สส.ภ.9, กก.สส.ภ.จว.พัทลุง.กก.สส.ก.จว.สงขลา และ สถ.ปากพะยูน

ภาค 9 แถลงข่าวการจับกุมคดีคนร้ายใช้อาวุธยิง นายพงษ์ธนา/สท.แทน พรหมคง(บาดเจ็บ)และนายกาญจน์ ก้านจันทร์(เสียชีวิต)
               วันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2567     เจ้าพนักงานตำรวจภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9  • พล.ต.ท กรศักดิ์ นวนหนู ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทน รองผบช.ก.9 ,พล.ต.ตวัลลภ จำนงค์อาบา รอง ผบช.ภ.9 . พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ รอง ผบช.ภ.9. พล.ต.ต.ณฐกรณ์ กาญจนาภรณ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง , พล.ต.ต.สมิต เชิงสะอาด ผบก.สส.ภ.9 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รอง ผบก.สส.ภ.9 .พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ รอง ผบก.สส.ภ.9 , พ.ต.อ.อนุสรณ์ เส้นตรัง ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.9 .พ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุข ผกก.สส.3บก.สส.ภ.9, พ.ต.อ.ยุทธศักดิ์ เอี่ยมสุนทร ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง, พ.ต.ท.เอกภพ มุสิกปักษ์ รองผกก.สส.ภ.จว.สงขลา,พ.ต.ท.เกริกชัย ฉันทจิตต์ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.9. พ.ต.ท.สัณฑ์ธรธัญ อารมณ์รัตน์ รอง ผกก.สส.2 บก.สสภ.9 พร้อมชุดสืบสวน บก.สส.ภ.9 ,บก.สส.ภ.8 .ชุด สืบสวน ภ.จว.พัทลุง,ชุดสืบสวน ภ.จว.สงขลา และชุดสืบสวน สภ.ปากพะยูนได้ร่วมกันจับกุม

1.นายสุพัฒน์ แก้วจันทร์ อายุ 62 ปี อยู่ที่ 132 ม.6ต.คอนทราย อ.ปากพะยูน จว.พัทลุงตามหมายจับของศาล จว.พัทลุง ที่ จ.286/2567 ลง 15 ก.ค.67
2.นายเสฐวุฒิ แก้วจันทร์ อายุ 31 ปี อยู่ที่ 132 ม.6 ต.ดอนทราย อ.ปากพะยูน จว.พัทลุงตามหมายจับของศาล จว.พัทลุง ที่ จ.287/2567 ลง 15 ก.ค.67
พร้อมด้วยของกลาง
1.รถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นเทียน่า สีดำ หมายเลขทะเบียน ธ.4359 สงขลา
2.รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีดำแดง ไม่ติดป้าย จำนวน 1 คัน
3.อาวุธปืนพกสั้น แบบออโตเมติก ยี่ห้อซู๊ดเตอร์ ขนาด .45 หมายเลขทะเบียน 39143034 ไม่มีแมกกาซีน จำนวน 1 กระบอก
4.หมวกกันน๊อค สีดำ จำนวน 2 ใบ
5.รองเท้าผ้าสีดำ ขอบขาว จำนวน 1 คู่
6รองเท้าผ้าใบ สีขาว มีแถบ 2 เส้น สีดำ จำนวน 1 คู่
7.ผ้าขนหนู สีม่วง จำนวน 1 ผืน
8. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง

             และครวจยึดอาวุธปืนไว้เพื่อทำการตรวจสอบกับสารบบคดีของ ศพรู.9 อีกจำนวน 3 กระบอกสถานที่จับกุม จุดตรวจปฐมพร อ.เมือง จว.ชุมพร เมื่อ 15 ก.ค.67 เวลาประมาณ 00.20 น.
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น ,ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควร ”

            เหตุเกิดที่จุดรับซื้อน้ำยาง ม.6 ต.ดอนทราย อ.ปากพะยูน จว.พัทลุง    เมื่อ 13 ก.ค.67  เวลาประมาณ 08.05 น.   ชั้นจับกุม นายสุพัฒน์ๆ ให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้ร่วมฆ่าผู้ตายและไม่ได้พยายามฆ่าผู้บาดเจ็บแต่ยอมรับว่าได้ขับรถยนต์เก๋ง ของตนไปรับนายเสฏฐวุฒิฯบุตรชาย กับเพื่อนของบุตรชายบริเวณถนนหลังป้อมยามโคกทราย อ.ปากพะยูน ห่างจากจุดเกิดเหตุ  ประมาณ 3 กม.    แล้วพาเดินทางไปที่บ้านภรรยา ที่ อ.หาดใหญ่ และเป็นผู้นำอาวุธปืนพกสั้นแบบออโตเมติกขนาด .45 ของนายเสฎฐวุฒิฯ,นำหมวกกันน๊อค 2 ใบ สีดำรองเท้า สีขาว 1 คู่ รองเท้าสีดำ 1 คู่นำลงจากรถยนต์เก๋งของตนเก็บไว้ที่บ้านกรรยา  และนายเสฏฐวุฒิฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า  ตนเป็นคนร้ายที่ร่วมกับเพื่อนชื่อออย พากันขับขี่และซ้อน รถ จยยยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110ไอ สีดำแดง ไปก่อเหตุยิง สท.แทนหรือนายพงษ์ธนา พรหมคง ที่จุดรับซื้อ น้ำยางของ สท.แทน ที่ ม.6ต.ดอนทราย อ.ปากพะยูน โดยตนพาอาวุธปืนติดตัวไปด้วย 2 กระบอกคือ อาวุธปืนพกสั้นแบบรีวอลเวอร์ ขนาด 357 ไม่มีทะเบียน และอาวุธปืนพกสั้นแบบออโตเมติก ขนาด .45 มีทะเบียนของตน โดยตนนั่งซ้อนท้าขนายออย เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้ลงไปใช้อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 357 ชิง บสท.แทน จำนวน 6 นัด  แต่กระสุนพลาดพกกอกน้องสรแทน ซึ่งเข้ามาขวาง จนเสียชีวิต  เมื่อกระชุนป็นหมด จึงใช้อาวจปินพกสั้นขนาด 45 ของคน ยิงใส่ สท.แทนอี๊ก และตนถูก สท.แทน ยิงสวนมา จำนวน 1 นัด ถูกบริเวณสะเอวขวา ได้รับบาดเจ็บ และรับว่าตนได้ทำแมกกาซีนปีน ขนาด 45 จำนวน 1 อัน พร้อมกระสุนเป็นในแมกกาซีน จำนวน 6 นัด ตกไว้ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากกระสุนปืนขัดลำกล้องจากนั้นจึงไปขึ้นรถ จยย.ที่มีนายออย รออยู่ที่รถ โดยขึ้นนั่งหน้า และนายออย นั่งประกบหลัง ขับขี่พากันออกจากจุดเกิดเหตุ แล้วตนโทรศัพท์แจ้งให้นายสุพัฒน์ฯขับรถยนต์เก๋งมารับ ที่ถนนหลังป้อมยามโคกทราย โดยได้นำรถ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุไปจอดแอบไว้ในซอย แล้วตนกับนายออย พากันขึ้นรถยนต์เก๋งนิสสัน สีดำ ที่มีนายสุพัฒน์ฯ ขับมารับแล้วพาหลบหนีไปที่บ้านภรรยาของ นายสุพัฒน์ฯที่ อ.หาดใหญ่ แล้วนายสุพัฒน์ฯนำสิ่งของที่ใช้ในการก่อเหตุลงจากรถยนต์เอง แล้วให้ภรรยาของนายสุพัฒน์ฯใช้ผ้าเช็ดเลือดที่เบาะรถบริเวณที่นายเสฏฐวุฒิฯ นั่ง จากนั้นนายสุพัฒน์ฯ ขับรถยนต์ของภรรยาไปส่งนายออย

            ต่อมา 15 ก.ค.67 นายสุพัฒน์ฯได้ชักชวนให้นายเสฎฐวุฒิฯ หลบหนีไปด้วยกันที่จว.ชุมพร โดยใช้รถยยนต์กระบะของภรรยานายเสฎฐวุฒิฯ ซึ่งนายสุพัฒน์ฯขับรถยนต์เก๋งไปจอดไว้ ที่บ้านภรรยานายเสฎฐวุฒิฯ แล้วใช้รถยนต์กระกะของภรรยานายเสฏฐวุฒิฯ พากันเกินทางไป จว.ชุมพร จนกระทั่งถูก จนท.ตร.สกัดจับกุมได้ 

            พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่ออ13 ก.ค.67 เวลาประมาณ 08.05 น.ได้มีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน ยิงนายพงษ์ธนา หรือ สท.แทน พรหมคง ได้รับบาดเจ็บและนายกาญจน์ ก้านจันทร์ ถึงแก่ความตาย เหตุเกิดที่ จุดรับซื้อน้ำยาง ม.6 ต.คอนทราย อ.ปากพะยูน จว.พัทลุง โดยคนร้ายจำนวน 2 คน ขับขี่และซ้อนท้าย รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีดำแดง ไม่ติดป้ายทะเบียน สวมหมวกกันน๊อคสีดำทั้งสองคน จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า สาเหตุที่สท.แทน ถูกคนร้ายยิงได้รับบาดเจ็บและมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว มาจาก ก่อนเกิดเหตุ ประมาณ 3-4เดือน นายสุพัฒน์ฯได้ทาบทาม สท.แทน ให้มาอยู่ฝ่ายนายสุพัฒน์ฯ ซึ่งจะมีการเลือกตั้งนายกเทศบาลดอนทราย ในช่วงต้นปี 2568 โดยนายสุพัฒน์ฯเสนอตำแหน่งรองนายกให้ หากนาย สุพัฒน์ชนะการเลือกตั้ง แต่ สท.แทน ได้ปฏิเสธตลอดมา สร้างความไม่พอใจให้นายสุพัฒน์เป็นอย่างมาก เนื่องจาก สท.แทน ได้รับคะแนนนิยมจากชาวบ้านเป็นอย่างมาก และนายสุพัฒน์ฯเกรงว่าจะแพ้การเลือกตั้งนายกเทศบาลดอนทราย จึงใช้ให้นายเสฏฐวุฒิฯ บุตรชายกับพวก ไปอิง สท.แทน แต่กระสุนปืนพลาดไปถูกลูกน้องของ สท.แทน ถึงแก่ความตาย และ สท.แทนได้รับบาดเจ็บ และ สท.แทน ยังได้ใช้อาวุธป็นพกสั้นแบบรีวอลเวอร์ ขนาด 38 ของตน ขิงต่อสู้กับนายสอฐวุฒิฯ จำนวน 1 นัด กระสุนปืนถูกบริเวณสะเอวด้านขวา ได้รับบาดเจ็บ ต่อมาพงส.สร.ปากพะยูน ได้สอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติจับกุม นายสุพัฒน์แก้วจันทร์ และนายเสอฐวุฒิ แก้วจันทร์ ต่อศาล จว.พัทลุง เมื่อ 15 ก.ค.67

            ต่อมา 15 ก.ค.67 จนท.ตร.ชุดสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายในคดีนี้ ได้สืบสวนทราบว่านายสุพัฒน์ฯและนายเสฎฐวุฒิฯ พากันหลบหนีออกนอกพื้นที่ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้รับคำสั่งให้สืบสวนติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้มาดำเนินคดีตาม กม.ให้จงได้ เนื่องจากคนร้ายก่อเหตุในเวลากลางวันโดยไม่เกรงกลัว กม.บ้านเมือง และก่อเหตุในเวลากลางวัน และมีนักการเมืองท้องถิ่นได้รับบาดเจ็บ และกดีเป็นที่น่าสนใจของประชาชนและ สื่อมวลชน จึงจัดกำลังออกติดตาม นายสุพัฒน์ฯกับพวก หลังจากสืบทราบว่านายสุพัฒน์ฯ มีการเปลี่ยนรถที่หลบหนีจากใช้รถยนต์เก๋งนิสสัน สีดำ เป็นรถยนต์กระบะฟอร์คแบบ 4 ประตูสีเทา จึงแจ้งสกัดจับไปตามด่านตรวจในเส้นทางขาขึ้น กทม. จนกระทั้งสามารถสกัดรถยนต์ของนายสุพัฒน์ฯ และนายเสฎฐวุฒิฯ ได้บริเวณใกล้ด่านปฐมพร อ.เมือง จว.ชุมพร ขณะพากันหลบหนี จึงแจ้งข้อกล่าวหาจับกุมตามหมายจับของศาล จว.พัทลุง ให้ทราบ จึงได้นำตัว ผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่ง พงส.สภ.ปากพะยูน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

          ทั้งนี้ชุดสืบสวนสอสวนสามารถออกหมายจับผู้กระทำผิด และติดตามจับกุมตัวได้ในเวลา เพียง 3 วัน อีกทั้งยังสามารถตรวจยึดรถที่ใช้ในการก่อเหตุได้ทั้งรถ จยย. ที่ใช้ยิงผู้ตาย และรถยนต์เก๋ง ที่ใช้ขับไปรับมือปืนที่ยิงผู้ตายแล้วพาหลบหนีออกจาก ตำบลที่เกิดเหตุ และยังสามารถตรวจยึดอาวุธปืนที่ใช้ยิงผู้บาดเจ็บและเครื่องแต่งกายที่คนร้ายทั้งสองคนสวมใส่ในการ ก่อเหตุ มาเป็นพยานหลักฐานในคดีจนเกือบครบถ้วน

Facebook Comments Box


Spread the love

Written by 

Related posts

Verified by ExactMetrics