พลเอก ประวิตรฯ หารือร่วมเอกอัครราชทูตคิวบาประจำประเทศไทย ขับเคลื่อนความร่วมมือการแพทย์และสาธารณสุข

พลเอก ประวิตรฯ หารือร่วมเอกอัครราชทูตคิวบาประจำประเทศไทย ขับเคลื่อนความร่วมมือการแพทย์และสาธารณสุข
Spread the love

พลเอก ประวิตรฯ หารือร่วมเอกอัครราชทูตคิวบาประจำประเทศไทย ขับเคลื่อนความร่วมมือการแพทย์และสาธารณสุข มุ่งหวังใช้การทูตสาธารณสุขแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้

(วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566)  เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ “กพต.” เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับ Mr. Hector Conde Almeida เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐคิวบาประจำประเทศไทย และผู้บริหารระดับสูงของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมมือขับเคลื่อนงานการแพทย์และสาธารณสุขที่เป็นนโยบายสำคัญเพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตของสาธารณรัฐคิวบากับประเทศไทยไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะแนวทางการนำร่องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งที่ผ่านมาประสบปัญหาจากสถานการณ์ความไม่สงบมาอย่างต่อเนื่องส่งผลให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่จำนวนมากขาดโอกาสการพัฒนาตามศักยภาพ เช่น การศึกษา การสาธารณสุขและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นต้น ที่สำคัญนำไปสู่การมีทุนทรัพยากรมนุษย์ที่เปราะบางในเชิงสุขภาพ จำเป็นจะต้องใช้มิติงานด้านสาธารณสุขเพื่อบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือในระยะยาวตามที่ได้รับความเดือดร้อนสืบเนื่องจากเกิดความไม่สงบในพื้นที่ส่งผลให้เกิดปัญหาสาธารณสุขตามมา เช่น ปัญหาการขาดสารอาหารในเด็กเล็ก ปัญหาการเข้าถึงบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข ปัญหาโรคติดต่อเรื้อรังที่เป็นปัญหาสำคัญขององค์การอนามัยโลก หรือการให้ความรู้ทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ถูกต้อง เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีความเข้าใจและทัศนคติที่ถูกต้องต่อการป้องกันและการรักษาโรค

พลเอก ประวิตรฯ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ทางการทูตไทยกับสาธารณรัฐคิวบาเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายมีการแลกเปลี่ยนการเยือนในหลายโอกาส มีความก้าวหน้าในความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ ด้านสาธารณสุข การวิจัยทางการแพทย์ ความร่วมมือวิชาการ กีฬาและความตกลงที่สำคัญกับประเทศไทยอีกหลายฉบับ โดยเฉพาะตนเองเห็นด้วยอย่างยิ่งที่สาธารณรัฐคิวบา ร่วมมือกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กระทรวงสาธารณสุขและสถาบันอิกร่า ผนึกกำลังขับเคลื่อนโครงการเจียระไนเพชรสู่วงการแพทย์ที่มีแนวทางสำคัญ คือ การคัดเลือกนักเรียนที่มีผลการเรียนดีในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าร่วมโครงการเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาต่อในสาขาแพทย์ในประเทศสาธารณรัฐคิวบา ในขั้นตอนต่อไป ในฐานะประธาน กพต. ก็จะนำเรื่องดังกล่าวไปแจ้งให้ที่ประชุมทราบในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ที่จะถึงนี้ พร้อมนี้ จะได้มอบหมายส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปศึกษากระบวนการและทำความร่วมมือเพื่อสนับสนุนทุนการศึกษาจากรัฐบาลสาธารณรัฐคิวบาในสาขาคณะแพทยศาสตร์บัณฑิต (ปริญญาตรี) และเตรียมการให้มีการลงนามข้อตกลง MOU กับสถาบันการศึกษา อาทิ โรงเรียนแพทย์ละตินอเมริกา (อีแลม) และสถาบันการศึกษาที่เปิดการเรียนการสอนในสาขาวิชาแพทย์ในสาธารณรัฐคิวบาต่อไป

ตนเองในนามประธาน กพต. ที่กำกับดูแลพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอขอบคุณรัฐบาลสาธารณรัฐคิวบาสำหรับความร่วมมือเป็นอย่างดีตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การพูดคุยวันนี้ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ยืนยันความตั้งใจของทั้งสองประเทศที่จะผลักดันความร่วมมือขับเคลื่อนโครงการเจียระไนแพทย์เพื่อชุมชนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เพราะในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีสัดส่วนแพทย์ต่อประชากร 1 ต่อ 1,794 คน ในขณะที่ กรุงเทพมหานคร มีแพทย์ต่อประชากร 1 ต่อ 700 คน ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานระดับโลก คือ 1 ต่อ 600 คน จึงจำเป็นจะต้องสร้างแพทย์ในพื้นที่ให้เพียงพอต่อประชากรรองรับภารกิจการถ่ายโอนโรงพยาบาลชุมชนไปยังท้องถิ่นในปี 2570 จึงจำเป็นจะต้องมีบุคลากรทางการแพทย์ที่ครบถ้วนที่สำคัญ คือ การให้โอกาสนักเรียนในพื้นที่เข้าสู่การศึกษาและมาบรรจุในโรงพยาบาลในพื้นที่ของตนเอง เพื่อให้สามารถให้บริการทางการแพทย์ได้อย่างสมบูรณ์ สำหรับการจัดสรรทุนการศึกษา จำนวน 1,000 ทุนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในฐานะเป็นพื้นที่นำร่อง เพื่อจะได้ขยายผลไปยังพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศไทยครบทุกจังหวัดตามที่มีโรงพยาบาลชุมชนเป็นหน่วยให้บริการปฐมภูมิตามเป้าหมายการพัฒนาร่วมกันของไทยและคิวบา

Mr. Hector Conde Almeida เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐคิวบาประจำประเทศไทย กล่าวว่าสาธารณรัฐคิวบาและประเทศไทย มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงในหลายโอกาสและมีความก้าวหน้าในความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ สาธารณสุขและการวิจัยทางการแพทย์ กีฬา และความร่วมมือ ด้านวิชาการ มีความตกลที่สำคัญ เช่น ความตกลงเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐคิวบา, ความตกลงระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาหอการค้าแห่งสาธารณรัฐคิวบา, บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมแห่งสาธารณรัฐคิวบา และความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางด้านกีฬาระหว่างสถาบันพลศึกษาแห่งราชอาณาจักรไทย กับสถาบันกีฬา พลศึกษาและนันทนาการ และยินดีอย่างยิ่งที่จะมีการยกระดับความร่วมมืออีกขั้นหนึ่ง ผ่าน โครงการสำคัญอย่างโครงการเจียระไนเพชรสู่วงการแพทย์ ด้วยการส่งนักศึกษาไปศึกษาต่อในสาขาแพทย์ ณ สาธารณรัฐคิวบา ซึ่งเป็นแนวนโยบายทางการทูตของสาธารณรัฐคิวบาในฐานะประเทศต้นแบบที่จัดบริการสาธารณสุขที่ดีระดับต้น ๆ ของโลก มีมาตรฐานตามเกณฑ์ของแพทย์สภาไทย และใช้จุดแข็งด้านการแพทย์ให้ทุนการศึกษาเป็นยุทธศาสตร์การทูตเชิงเวชการ ที่เป็นนโยบายการทูตด้านสาธารณสุขที่สำคัญของสาธารณรัฐคิวบาในเวทีโลก ประกอบกับกระทรวงสาธารณสุขของไทย ได้ลงนามความร่วมมือด้านสาธารณสุขและการแพทย์กับสาธารณรัฐคิวบา เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ก็จะสามารถขับเคลื่อนให้เห็นผลเป็นรูปธรรมได้ทันที และขอบคุณเป็นอย่างสูงตามที่ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้สานสัมพันธ์โครงการดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการใช้ยุทธศาสตร์งานสาธารณสุขเพื่อสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน โดยเฉพาะยึดประโยชน์ทางสุขภาพของประชาชนเป็นสำคัญ

Facebook Comments Box


Spread the love

Written by 

Related posts

Verified by ExactMetrics